แน่นอนครับว่าประเด็น...ลอนดอน ดาร์บี้ ระหว่างสองทีมในกลุ่มลุ้นแชมป์ที่สถานการณ์พามาอยู่ในจังหวะที่ไม่เป็นใจ น่าจะอยู่ที่เรื่อง ''แท็กติก'' ของสองทีมมากสุด....ระหว่างรับกับรุก...นั่นเอง 

        ''สิงห์บลูส์'' ออกตัวได้ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 30 ปี ที่สำคัญย่ำแย่ที่สุดในการทำงานของ โชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งถ้าถามทัศนะกันก่อนเริ่มต้นไม่มีใครคิดว่าจะออกมาแบบนี้ โดยเฉพาะสื่อทุกสำนักของอังกฤษยังฟันธงว่า ''แชมป์'' แน่

        ตอนนี้พวกเขาตกมาอยู่อันดับที่ 17 ห่างจากกลุ่มท้ายตาราง 2 คะแนน เล่นไป 5 นัดมี 4 แต้ม โดนยิงไป 12 ลูก นี่ย่อมไม่ใช่เชลซี ไม่ใช่ทีมของ มูรินโญ่ อย่างที่เรารู้จัก เสียประตูเยอะเกินไปแล้วละครับ

        ย้อนไปดูเมื่อปีแรกที่เขาทำงานกับเชลซี 38 นัดโดนแค่ 15 ลูก

        ย้อนไปดูงานที่ปอร์โต้, อินเตอร์, เรอัล มาดริด ต่างพบว่าตัวเลข ''รัดกุม'' ในเกมรับนั้นมีค่าอย่างยิ่ง และเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ มูรินโญ่ ประสบความสำเร็จในการทำงาน จนกระทั่งเขาเดินทางมาพบกันวันอันเลวร้าย

        มองแง่บวก...เราจะได้เป็นฝีมือของ มูรินโญ่ ในอีกแบบหนึ่ง

        ไม่ใช่ทำทีมให้เป็นแชมป์ในปีนี้ ซึ่งถ้าทำได้จริงๆ ผมว่าเขาน่าจะเป็นกุนซือในดวงใจของแฟนบอลและเจ้าของทีมอย่างแน่นอน แต่มันเป็นการทำทีมที่มีผลงานอันน่าผิดหวัง ย่ำแย่ เลวร้าย ให้กลับคืนสู่สภาวะปกติ

        ง่ายมั้ยที่จะนำเชลซีกลับมายังหัวตาราง

        ถ้าดูศักยภาพของของนักเตะและตัว มูรินโญ่ เอง เราก็เชื่อว่าหายนะของพวกเขาน่าจะหลุดในเร็ววันนี้ น่าจะกลับคืนสู่อันดับชปล.พื้นที่ของพวกเขา แต่ถ้าจะบอกว่าพวกเขามีสิทธิ์เป็นแชมป์ได้หรือไม่

        คำถามนี้...คงต้องให้แมนฯ ซิตี้ เป็นผู้ตอบว่า ''ยอมมั้ย''

        ด้วยเพราะสถานการณ์แม้เพียงแค่ 5 นัด ยังเหลืออีก 33 นัด แต่ราศีแชมป์ของเรือใบสีฟ้านั้นสดใส และหากไม่มีอะไรผิดพลาดพวกเขาน่าจะเก็บชัยชนะไปเรื่อยๆ จนกระทั่งห่างจนอันดับสองไล่ไม่ทันก่อนคริสต์มาส

        นั่นคือเรื่องไกลตัว...แต่เอาเรื่องใกล้ตัวก่อนนะครับ

        เกมลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ จะว่าสำคัญและมาไม่ถูกจังหวะคงเป็นไปไม่ได้ เอาเป็นว่ามันก็เหมาะเจาะเหมือนกันที่เราจะได้เห็นแนวทางการทำงานของ มูรินโญ่ ในเกมนี้ว่าเขาจะจัดการอย่างไร เมื่อเจอทีมในเกรดเดียวกัน ด้วยสภาพที่ไม่เข้าฝักและต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

        อย่างเช่น...อย่าเสียง่าย..อย่าพลาด และอย่าแพ้อาร์เซน่อลคาบ้าน

        มู จะแก้ปัญหาในการจัดกระบวนเกมรับอย่างไร

        จอห์น เทอร์รี่ จะยังคงคุมเกมรับอยู่ต่อไป...โดยมี แกรี่ เคฮิลล์ เล่นคู่ แบกสองฝั่งชุดเดิมแต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือฟอร์มการเล่นที่หายไป มันเหมือนเลยจุดพีกก็คงไม่ใช่ เพราะมันพลาดง่าย เสียง่ายไปหน่อยครับ

        ผมเชื่อว่าแบ็กโฟร์ น่าจะชุดเดิม...

        นัดชนะมัคคาบี้ เทลอาวีฟ จากอิสราเอล 4-0 พัก เทอร์รี่ ให้ ซูม่า ลงเล่นแทน พัก มาติช ให้ รูเบน ลอฟตัส-ชีค เล่น และเด็กปั้นเชลซีคนนี้ที่เปิดตัวที่เมืองไทย...เล่นได้ค่อนข้างดีและได้รับคำชม ผมเชื่อว่า ลอฟตัส-ชีค น่าจะได้โอกาสเล่นเกมนี้เหมือนกัน

        เพราะถ้า 4 แบ็กโฟร์ เป็นชุดเดิม...แนวกลางต้องสกรีนเกมรุกอาร์เซน่อลให้ชั้นหนึ่ง และนี่คือปัญหาของเชลซี ที่กองกลางปีนี้ฟอร์มตกในแง่การจัดการเกมรับร่วมกับเกมรุก ปล่อยให้ เทอร์รี่ ซึ่งโรยแล้วเจองานหนักกับพวกอีกสามคน

        ผมเชื่อว่าด่านแรกที่ มูรินโญ่ ต้องปรับคือแดนกลาง มาติช, ฟาเบรกาส ต้องปึ้กกว่าเดิม สังเกตว่าพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดที่แพ้เอฟเวอร์ตัน 1-3 เขาใช้ โอบี มิเคล มาทำงานกับ มาติช เพื่อดัน ฟาเบรกาส เล่นเกมรุกข้างหน้า

        ไม่ได้ผลนะครับถ้ามองผลแข่ง

        ดังนั้นนัดนี้ถ้าจะใช้กลางรับมาเล่นกับมาติช เพื่อให้เชสขึ้นทำเกมรุกกับอาซาร์ และออสการ์นักเตะที่จะถูกส่งลงสนามมาประสานงานกับมาติชเพื่อสกรีน เกมรับให้ เทอร์รี และเพื่อนน่าจะเป็น รามิเรส หรือไม่ก็ ลอฟตัส-ชีค ดาวรุ่งของพวกเขานั่นเอง

        ตามข่าวบอกว่า วิลเลี่ยน, เปโดร เจ็บ ดังนั้นโอกาสเป็นของ ออสการ์ ที่น่าจะได้ทำงานกับ อาซาร์ และเชส ประสานงานกับ ดีเอโก คอสต้า

        ตัวผู้เล่นคงไม่หนีไปจากนี้แต่วิธีการเล่นเกมรับนี่แหละน่าสนใจ เชลซีคงไม่เน้นเกมรุกมากเป็นพิเศษหากเกมรับยังไว้ใจไม่ได้ว่ามั่นคง รัดกุม และปึ้กหรือ compact ตามภาษาโค้ช ผมว่า มูรินโญ่ จะสร้างพื้นฐานการเล่นของทีมใหม่

        รับให้แน่น...แล้วค่อยๆ บุก

        กล่าวคือพวกเขาจะปล่อยให้อาร์เซน่อลครองบอล ล้ำแดนเข้ามาได้โดยที่พวกเขาพยายามปิดพื้นที่สำคัญเอาไว้ ไม่ปล่อยให้ถึงหน้าบ้านและเขตโทษ จากนั้นได้โอกาสจึงค่อยโต้กลับหรือตัดบอลได้ก็โต้ทันที

        สำคัญคือ ''รับ'' อย่างมีวินัยทั้งแดนกลางและหลัง ช่องไฟระหว่างแดนไม่ห่าง พื้นที่เต็ม ทำให้ปืนเจาะยาก

        มูรินโญ่ น่าจะวางเกมแบบนี้

        ส่วน อาร์แซน เวนเกอร์ ที่มีสถิติย่ำแย่ในการพบกับ มูรินโญ่ ชนะครั้งเดียวเมื่อต้นเดือนสิงหาคมในคอมมิวนิตี้ ชิลด์ แพ้ 7 เสมอ 6 คงมุ่งหน้าหาชัยชนะต่อไป นัดนี้ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นมาก

        ลุ้นกันว่า วัลค็อตต์ และ ชิรูด์ ใครลงก่อนหลัง...กลางก็ โอซิล จอมแอสสิสต์ ของทีม อเล็กซิส ซานเชส, กาซอร์ล่า และ แรมซี่ย์ ส่วนกลางรับ โกเกอแล็ง เหมือนเดิม ด้านหลัง กาเบรียล กับ กอสซิแอลนี่ แบ็กสองข้างเหมือนเดิม เบเยริน กับ มอนเรอัล ลงมา

        กลางสัปดาห์ เวนเกอร์ ใช้ เดอบูชี่ กับ กิ๊บบ์ส แต่ปัญหาของกลางสัปดาห์ที่แพ้เป็นเพราะ ''แท็กติก'' ของดินาโม ซาเกร็บ ทีมจากโครเอเชีย ที่เน้นเกมโต้กลับ ซึ่งเชื่อว่าเชลซีจะเล่นแบบนี้ เวนเกอร์ ต้องไม่ประมาท

        รูปเกมของอาร์เซนอลก็อย่างที่เราทราบๆ กันคือ บุกเข้าหา เน้นครองบอล เน้นการเจาะตามช่อง แต่เมื่อมันยาก มันอึดอัด พวกเขาจะถ่ายบอลไปมา ซึ่งแฟนบอลตัวเองก็อึดอัดตาม

        เราอาจเห็นเกมที่น่าเบื่อในช่วงแรก เพราะเชลซีจะเน้นรัดกุม ปืนก็พยายามครองบอลบุก แต่เจาะยากลำบาก แล้วต้องระวังลูกโต้ของเชลซี เจ้าบ้านที่เน้นไม่เสีย..ไม่พลาด และถ้าชนะได้จะยอดเยี่ยมมากเหมือนได้โบนัส 12 เดือน

        เสมอคือผลงานที่แย่ที่สุดของเชลซีครับ มุมแพ้นั้นพวกเขาจะไม่มีทางคิดถึง เล่นเพื่อไม่เสีย เล่นเพื่อแต้ม กลับมาสู่ปรัชญาพื้นฐานดั้งเดิม รัดกุม สร้างเกมจากเกมรับไปก่อนรุก ถ้าไม่เสียประตูไม่พลาด ค่อยเดินเกมรุก

        ตรงนี้แหละครับที่เราจะเห็นเกมมันน่าจะออกมาแบบนี้

        ส่วนเกมรุกก็ตามจังหวะ ทำได้ก็โอเค ไม่ได้ก็ถอนลงมาตั้งรับให้มันแน่นเอาไว้ ซึ่งแฟนปืนต้องอดทนต่อการบุกด้วย และต้องระวังอย่าเสียบอล

        เลือกชมเอาตามอัธยาศัยระหว่างรับของเจ้าบ้านกับบอลบุกของทีมเยือน

        ผมไม่คาดหวังว่าจะออกมาสนุก...และไม่คาดหวังว่า มูรินโญ่ จะออกมาแลกหมัดกับอาร์เซน่อลอีกด้วยครับ

Jackie

http://www.siamsport.co.th/Column/150919_030.html