ในบรรดาทีมที่นิ่งสนิทเหมือนกบจำศีลตลอดตลาดฤดูร้อน ต้องยกให้อาร์เซน่อล 

        ใช้เงินเกินตัวมากครับ ตั้ง 13 ล้านปอนด์ น่าจับตีก้นซะให้เข็ด !
 
        ในเงินจำนวนนี้เป็นค่าตัวของ ปีเตอร์ เช็ก ไปซะสิบล้าน ที่หลืออีกสามล้านจ่ายเบี้ยใบ้รายทางให้พวกดาวรุ่งปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม
 
        ตะลึงจนพูดไม่ออกใช่ไหมล่ะว่าทั้งที่ซัมเมอร์นี้ บรรดา 20 ทีมในพรีเมียร์ลีก ร่วมด้วยช่วยกันทุบสถิติใช้เงินซื้อนักเตะมูลค่าถึง 870 ล้านปอนด์ แต่ขาประจำที่เข้าป้ายท็อปโฟร์มา 19 ฤดูกาลติดต่อกันอย่างอาร์เซน่อล ลงขันขอแจมแค่เศษเสี้ยวกระจึ๋งเดียว
 
        น้อยขนาดไหน เอาเป็นว่าไม่ถึง 1.5 เปอร์เซ็นต์ อ่ะครับ
 
        แม้อาร์เซน่อล อาจไม่ใช่ที่สุดหรือเบอร์หนึ่งของทีมใช้เงินน้อยในห้วงซัมเมอร์ เพราะยังมีนอริช (10 ล้านปอนด์) กับสวอนซี (9.1 ล้าน) ที่งก เอ๊ย ประหยัดกว่า แต่ด้วยสถานภาพความเป็นลูกเศรษฐีบวกเป้าหมายที่ต้องการลุ้นแชมป์ ไม่ใช่แค่หนีตาย
 
        จึงไม่ควรแปลกใจที่หนึ่งวันหลังตลาดวอดวาย ข่าวว่าแก๊งปืนโตกลุ่มเล็กๆ ออกมารวมตัวประท้วงหน้าออฟฟิศของสโมสร แสดงความคับข้องไม่พอใจที่ อาร์แซน เวนเกอร์ ไม่เสริมทัพแม้แต่ราย ถ้าไม่นับผู้รักษาประตู
 
        เป็นทีมเดียวในห้าลีกใหญ่ของยุโรป ที่กล้าหาญชาญชัย เดินยืดอกเชิดใส่กระแสประชานิยม หวังใช้เงินซื้อคะแนนเสียงและความสำเร็จ
 
        แฟนอาร์เซน่อล เฝ้ารอเกาะติดข่าวหน้าทีวีตลอดวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะ พวกเขาแอบหวังของขวัญสุดเซอร์ไพรส์จากเวนเกอร์ เหมือนในช่วงสองซัมเมอร์ที่ผ่านมา เมซุต โอซิล ถูกสอยในวันที่ 2 กันยายน 2013 ตามด้วย แดนนี่ เวลเบ็ค ในวันเดียวกันของปีถัดมา
 
        ท่ามกลางข่าวลือสารพัดสารพัน เหล่ากูนเนอร์ส วาดภาพในมโนว่า คาริม เบนเซม่า, เอดินสัน คาวานี่ รวมไปถึง เกรกอร์ซ ครีโชเวียค...ใครสักหนึ่งหรือสองคนจะถูกคว้ามาทันเส้นตายก่อนปิดตลาด
 
        แต่จนแล้วจนรอด ออฟฟิศที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เงียบฉี่ชนิดแมลงหวี่คุยกันยังได้ยิน
 
        ที่อื่นอาจชุลมุนวุ่นวาย สายโทรศัพท์ไม่เคยว่าง ประสานลูกคอกับเสียงครวญคราง เอ๊ย ครืดคราดของเครื่องแฟกซ์ แต่พนักงานที่เอมิเรตส์ บ้างตัดเล็บ บ้างแคะขี้หู ถอนขนจมูก ไม่ก็จับกลุ่มเม้าท์มอยละครแม่ผัวตบกับลูกสะใภ้เมื่อคืน
 
        กลางรับไม่มา กองหน้าไม่มี สองจิกซอว์ที่แฟนปืนเชื่อว่าถ้าได้มาเสริมทีมแล้ว อาร์เซน่อลมีโอกาสเบียดยาวๆ แต่เวนเกอร์ ชี้ให้ดูว่า...นี่งัยล่ะ "อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล" ผลของความอยากได้จนตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า
 
        เวนเกอร์คงอยากถามแฟนบอลกลับไปว่า...จะให้หลับหูหลับตาซื้อบ้าเลือดแบบนี้หรือถึงพอใจ ?
 
        เห็นช้างขี้อย่าริขี้ตามช้าง เพราะตูดจะฉีก คาวานี่ ถูกปารีส แซงต์-แชร์กแมง ตั้งค่าหัวไว้ 50 ล้านปอนด์ ดีดลูกคิดในใจว่านักเตะจะแตะ 29 ขวบ ในเดือนกุมภาพันธ์ เหลืออายุใช้งานไม่กี่ปี มันคุ้มหรือ ? ส่วนเบนเซม่า หนึ่งในกาลาคติกอส ไม่เคยโคจรเฉียดใกล้กับความเป็นไปได้
 
        ถ้าแฟนปืนอยากให้ปลด โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ แล้วหากองหน้าคนใหม่ ถามว่าจะให้เอาหมูหมากาไก่ที่ไหนมาแทน เด็กก็ไม่ได้ เกรดบีก็ไม่ไหว ขนาดดาวรุ่งไม่มีใครเคยได้ยินชื่ออย่างมาร์กซิยาล ยังกดไป 36 ล้านปอนด์ และอาจพุ่งไปเกือบ 60 ล้านปอนด์ เมื่อรวมโบนัสโน่นนั่นนี่
 
        หรือเวนเกอร์ ต้องแกล้งโง่ลงสนามไล่ล่า เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิง ฯลฯ ที่ทีมอย่างโวล์ฟสบวร์ก และลิเวอร์พูล โก่งค่าตัวแบบถือคติ "มึงกล้าซื้อ กูก็กล้าขาย"
 
        "ใช่ เราต้องการให้คุณทำแบบนั้น บ้าเลือด, แกล้งโง่ หรือจะเรียกอย่างไรก็ตาม ถ้ามันแลกกับการกลับมาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก" กูนเนอร์สหลายคนคงอยากตอบด้วยความรู้สึกอัดอั้น
 
        11 ปีนับตั้งแต่ความสำเร็จหนสุดท้าย อาร์เซน่อลรับบทแค่พระรองมาโดยตลอด ผลงานอาจไม่เคยหลุดจากท็อป-4 ก็จริง แต่การห่างแชมป์นานเกินทศวรรษ มันคือเครื่องยืนยันว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดพลาด
 
        เสียงเรียกร้องให้เวนเกอร์ จัดหนักใช้เงินทุ่มซื้อกองหน้าประเภทโป้งปิดบัญชีมาแทนชิรูด์ ถูกสนับสนุนด้วยหลักฐานทางสถิติ ว่าในฤดูกาลที่แล้ว อาร์เซน่อล คือทีมที่สร้างสรรค์โอกาสแบบจ่อๆ หรือที่ถูกบัญญัติเป็นภาษาอังกฤษว่า clear-cut chances (ccc) ได้มากเท่ากับเชลซี และแมนฯ ซิตี้ คือ 66 ครั้ง
 
        แต่ผลลัพธ์คือนักเตะอาร์เซน่อล โยนทิ้งโอกาสเหล่านั้นมากกว่าคู่แข่งอีกสองทีม เช่นเดียวกับจำนวนประตู 71 ลูก ก็ด้อยกว่าเชลซี (73) และแมนฯ ซิตี้ (83)
 
        โชเซ่ มูรินโญ่ รู้ว่าทีมมีปัญหาในตำแหน่งศูนย์หน้า พอเปิดตลาดฤดูร้อนปีที่แล้ว เขาไม่รีรอจัดการรวบรัดคว้า ดีเอโก้ คอสต้า มาตอบโจทย์ และมันเห็นผล  
 
        แต่เวนเกอร์ ทั้งที่มีเสียงจากอดีตลูกทีมอย่าง เธียร์รี่ อองรี บอกว่าชิรูด์ไม่เก่งพอ และอาร์เซน่อลต้องได้ "top, top quality striker" กลับพูดสวนไปว่า "ครั้งหนี่ง อองรี ก็มีเสียงพูดว่าอย่างนั้น นิโกล่าส์ อเนลก้า ก็เช่นกันที่ถูกมองว่าไม่เก่งพอ รวมถึง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่"
 
        ฤดูกาลนี้หลังจากผ่านไป 4 นัด และอาร์เซน่อลเพิ่งทำประตูได้แค่ 3 ลูก ปัญหาการจบสกอร์ของอาร์เซน่อล ยิ่งถูกโฟกัสจับผิดมากขึ้น
 
        วันเปิดซีซั่นที่พลิกล็อกแพ้ต่อเวสต์แฮมคาบ้าน 0-2 โอกาสจ่อๆ เผาขนหนึ่งหน แต่ชิรูด์ไม่สามารถเปลี่ยนให้เป็นประตู
 
        เกมบุกชนะพาเลซ 2-1 อเล็กซิส ซานเชซ พลาดทำประตูจากโอกาสทอง 2 ครั้ง และซานเชซกับชิรูด์ ยังนัดกันพลาดก่อนเสมอลิเวอร์พูล แบบไร้สกอร์
 
        ชิรูด์อีกครั้ง กับคราวนี้ ธีโอ วัลค็อตต์ สองหน ปล่อยโอกาสเหน่งๆ ให้ลอยนวล แต่อาร์เซน่อลยังบุกเฉือนนิวคาสเซิ่ล สิบคนไปได้ 1-0  
 
        รวมแล้ว บรรดากองหน้าอาร์เซน่อล ยังปิดบัญชีไม่ได้สักลูกจากโอกาสทองที่ต้องเป็นสกอร์ (อาทิ หลุดเดี่ยว) และพลาดไปถึง 8 ครั้ง ด้วยกัน
 
        พวกเขาอาจเก็บเพิ่มอีกสองแต้ม (จากเสมอเป็นชนะลิเวอร์พูล) แถมสะสมผลต่างประตูได้เสียในแดนบวก แทนจะเพิ่งมี 4 คะแนน กับผลต่าง "0" สนิท
 
        ที่สำคัญคือ 3 ประตู ที่ทำได้ในพรีเมียร์ลีกของอาร์เซน่อล สองในนั้นถูกให้เครดิตเป็นการทำเข้าประตูตัวเอง บวกอีกหนึ่งจากชิรูด์
 
        อองรีรวมถึงแฟนอาร์เซน่อล อยากได้กองหน้าที่การันตีผลงานฤดูกาลละ 20 ประตูขึ้นไปถ้าไม่บาดเจ็บ ในเวอร์ชั่นของ เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ หรือ ดีเอโก้ คอสต้า
 
        แต่ผ่านมาสามซีซั่นใน เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ชิรูด์ยังห่างไกลจากเป้าหมายนั้น 11, 16 และ 14 ลูกตามลำดับ ขณะที่ดาวซัลโวของทีมแชมป์ ต่างจบสกอร์ในระดับ 20 ประตูเป็นอย่างน้อยในรอบหกปีหลัง
 
        จาก ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา 29 ลูก ในฤดูกาล 09/10, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 20, เซร์คิโอ อเกวโร่ 23, โรบิน ฟาน เพอร์ซี 26, ยาย่า ตูเร่ 20 และ ดีเอโก้ คอสต้า 20 ลูกในซีซั่นที่แล้ว
 
        ชิรูด์กำลังจะเต็ม 29 ตอนสิ้นเดือนนี้ ใครบางคนท้าว่าอาร์เซน่อลจะเข้าป้ายท็อปโฟร์เป็นปีที่ 20 ติดต่อกัน ยังง่ายซะกว่าลุ้นให้ชิรูด์ยิงถึง 20 ลูกในลีก...

...มาริโน่...

http://www.siamsport.co.th/Column/150904_038.html