จริงๆ นอกจากฟุตบอลยุโรป ก็ยังมีโคปา อเมริกาและโอลิมปิกที่บราซิลด้วย ซึ่งถือว่า เป็นศึกใหญ่และยาวของรองเท้าฟุตบอลเลย

อย่างว่า ก็เป็นเรื่องปกติ เมื่อมีทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ในสายฟุตบอล วงการสตั๊ดก็คึกคักกันอยู่แล้ว เพราะนั่นหมายถึงการอิงกระแสผ่านนักเตะดังที่เป็นพรีเซนเตอร์เพื่อกระตุ้นให้คนทางบ้านอยากใส่ตาม อันนำมาซึ่งเม็ดเงินจากยอดขายที่มีมากกว่าช่วงเวลาปกติหลายเท่า

แม้อาจมีผู้ร่วมชิงชัยในศึกรองเท้าฟุตบอลมากกว่า 6 (เช่น Mizuno) แต่ตอนนี้ ขอเน้นเป็นเฉพาะค่ายที่เปิดตัวช่วงเวลานี้ก่อน เพราะมีข้อมูลและภาพออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ละค่ายจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง? ไปติดตามกันกันดีกว่านะครับท่านผู้ชม!

PUMA
evoPOWER / SPEED SL II Trick
สำหรับค่ายเสือกระโดดสามารถดึงคอลูกหนังมาเป็นแฟนคลับได้มากมาย ก็ทั้งด้วยสีสันและดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะเมื่อมีรายการสำคัญ เช่น ฟุุตบอลโลกหรือยูโร ซึ่งก็อย่างที่รู้กันว่า ลวดลายหรือการใส่สีในบางรุ่น เห็นแล้วรู้ทันทีว่า เป็น PUMA เช่น ตัวเวอร์ชั่นรับยูโรนี้ที่มาแบบข้างละสี โดยมันคือ เวอร์ชั่น Trick ซึ่งแฟนคลับหลายคงอาจจะเคยเห็นกันมาแล้วในฟุตบอลโลกปี 2014

Puma evoPOWER Trick

Puma EvoSPEED SL II Trick

ทั้ง EvoPOWER/SPEED นั้น Puma ก็ยังยึดสเปกแบบเดียวกับตัว 1.5 และ 1.3 ตามลำดับ ซึ่งถ้าใครชอบสตั๊ดสไตล์แน่นหนัด ก็จัดไป แต่ถ้าใครจะบ่นว่า พวกเขาไม่มีอะไรใหม่มานำเสนอแล้วเหรอ? ต้องบอกว่า ใจเย็น เพราะ Puma กำลังซุ่มทำสิ่งที่พวกเขาขาดหายไปคือ สายคอนโทรล ในชื่อ EvoTouch โดยมีภาพหลุดของรุ่นนี้ออกมามากมายและเราเองก็เคยนำเสนออย่างต่อเนื่อง

New Balance
Visaro / Furon 2016

โดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องคุณภาพสักหน่อย เพราะมีนักเตะดังที่เป็นพรีเซนเตอร์บางคนไม่ยอมใส่ลงเล่น แล้วก็ไปใช้แบรนด์อื่นแทน แต่นั่นต้องบอกว่า เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เนื่องจากสตั๊ดค่าย NB ได้ฟีดแบคที่ดีจากผู้ใช้งานในแง่ความกระชับและสบายเท้า เหมาะกับคนเท้ากว้างด้วย (มีขนาดให้เลือก) ในราคาที่ยอมรับได้ สำหรับคนที่มองหาทางเลือกใหม่กับทั้งตัว Visaro หรือ Furon

New Balance Visaro

New Balance Furon

Visaro (สายคอนโทรล) หรือ Furon (สายสปีด) มาในเจ็นใหม่ในสไตล์เจ็นเก่า ใครชอบดีไซน์แบบตัวแรกที่เปิดตัวมาก็ไม่น่ามีปัญหา รอบนี้แค่เปลี่ยนสีและดีไซน์ใหม่นิดหน่อย แต่คนที่กำลังคิดจะซื้อ ต้องบอกว่า ถ้าไม่ติดแบรนด์ใหญ่ ลองดูตัวนี้ก็ไม่เสียหาย

Umbro
Speciali PEPE Edition (และ Medusae)

แม้ว่าตั้งแต่ Medusae ออกมา จะยังไม่มีข่าวใหม่ให้ติดตาม แต่ค่ายนี้เขาเน้นความคลาสสิคซึ่งเป็นจุดยืนอันชัดเจน รวมถึงการพยายามนำเสนอสายพันธุ์โมเดิร์นด้วย โดย Speciali PEPE Edition มีขายในไทยแล้ว ซึ่งแฟนคลับก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีในแง่ความสวยงาม ใครชอบสตั๊ดหนังคลาสสิคนุ่มสบาย ก็จัดไป หรือถ้าชอบลองของใหม่ที่ได้สายสปีดในตัว ก็เป็นตัว Medusae ก็ได้ ซึ่งตอนนี้มากับสีสันใหม่ต้อนรับศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ด้วยสีสันที่ดูคล้ายกับธงชาติฝรั่งเศสหรือเรียกว่า โทนสี Dazzling Blue

Under Armour
Spotlight 2.0 / ClutchFit Force 2.0

ออกมาก่อนยูโร 2016 ไม่กี่วัน สำหรับสายสปีดของ Under Armour ในชื่อใหม่ว่า Spotlight หลังปลดระวางชื่อ Speedform

โดยชื่อเต็มของตัวนี้ คือ Spotlight 2.0 ซึ่งมาในดีไซน์เรียบง่ายและมี 2 โทนสีให้เลือกได้แก่ ขาว/ดำ และแดง/ดำ (บวกเหลือง) สำหรับคุณภาพก็น่าสนใจ แม้มีเสียงวิจารณ์เรื่องราคาที่สูง แต่ฟีดแบคจากที่คนใช้งานก็ถือว่า ดีทั้งในแง่ความคล่องตัวและการสัมผัสบอล ส่วนอีกตระกูลก็คือ ClutchFit Force 2.0ก็มีการทำสีสันใหม่ออกมา เพื่อเอาใจกลุ่มเป้าหมายสายคอนโทรล ใครชอบสีไหนก็ลองไปส่องตัวจริงในช็อปดู

Nike
Spark Brilliance Packs (4 ตระกูลหลัก)
Mercurial / Hypervenom / Magista / Tiempo

เมื่อเป็นค่ายใหญ่ ก็ต้องจัดเต็มเป็นธรรมดา โดย Nike ได้เปิดตัวคอลเล็คชั่นแนวแปล๊บปล๊าบรับยูโร 2016 ด้วยตระกูลหลักครบครัน ทั้ง Mercurial Superfly V, Hypervenom Phantom II, Magista Obra, Tiempo Legend VI ความน่าสนใจอยู่ที่ตรงตัว Hypervenom Phantom ที่ใช้อัปเปอร์แบบเจ็นแรกซึ่งเป็นผิวร่องแบบรวงผึ้งบวกกับเส้นใยล็อกเท้าแบบ Flywire ด้วย

Mercurial Superfly V

Hypervenom Phantom ll

Magista Obra

Tiempo Legend VI

สำหรับสเปกการใช้งานก็เป็นที่ประจักษ์กับผู้ใช้อยู่แล้ว ด้วยความครบเครื่อง โดยมีหลายแนวให้เลือกใช้ ซึ่งราคาก็ตามคุณภาพ และเหมาะกับนักสะสมด้วย ส่วนคนที่ไม่เคยใช้ค่ายนี้มาก่อน ถ้ามีโอกาสก็จัดดู ด้วยชื่อชั้นของแบรนด์และชิ้นงานประกอบอันดูดีพรีเมี่ยม

adidas
Ace 16+ PureControl / Messi 16+ PureAgility / X 16+ PureChaos 

อันนี้เพิ่งออกมาไม่นานและสร้างความฮือฮาพอสมควร สำหรับเวอร์ชั่นพิเศษทั้ง X 16+ PureChaos, Ace 16+ PureControl และ Messi 16+ PureAgility สามตระกูลหลักของค่ายที่แอบซ่อนเชือกไว้ (ยกเว้น Ace) ซึ่งก็ไม่คาดคิดเหมือนกันว่าจะทำครบ

Ace 16+ PureControl

Messi 16+ PureAgility

X 16+ PureChaos

โดยแน่นอนว่า ดีไซน์ เปลี่ยนไปตามรูปแบบการไร้เชือกผูก ตรงอัปเปอร์จึงออกมาแบบโล้นๆ มีแค่ร่องเล็กๆ ตามพื้นผิวของแต่ละรุ่น ซึ่งถือเป็นการกรุยทางสู่เจ็นใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม เวอร์ชั่นปกติที่ไม่มีคำว่า Pure ก็จะยังมีเชือกให้เห็นชัดๆ อยู่ และทยอยออกมาต่อจาก X

สำหรับความน่าสนใจคือ การไม่มีเชือกผูกโผล่ออกมา ซึ่งทำให้สามารถคอนโทรลหรือซัดบอลจากบริเวณหลังเท้าได้เต็มที่มากขึ้น งานนี้เหมาะสำหรับคนอยากลองของกับสตั๊ดที่เหมือนไร้ผูกแต่ก็มีเชือกผูกและสตั๊ดแบบไร้เชือกผูกของแท้ ไม่แน่อาจโดนใจก็ได้นะ

ที่มา: ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก footyheadlines.com, footy-boots.com, adidas.com, nike.com, puma.com, newbalance.com