แอปเปิ้ล ขนทัพผลิตภัณฑ์ใหม่อวดโฉม ฉลองครบรอบ 10 ปีของ iPhone เปิดตัว iPhone X การออกแบบใหม่ที่ไร้ปุ่ม Home พร้อมกับขนาดหน้าจอแบบเต็มพิกัด รองรับปลดล็อคสแกนใบหน้า และยังมีไอโฟน 8 ความละเอียดอยู่ที่ 12 MP ส่วนกล้อง ไอโฟน 8 พลัส ที่มากับสีทองแบบใหม่ ด้านแอปเปิ้ล วอช ไม่น้อยหน้ากับ ซีรีย์ 3 โทรออกได้ทันที และแอปเปิ้ล ทีวีโฟร์เค ดูภาพยนตร์สุดคมชัด

เมื่อเวลา 00.01 น. วันที่ 13 ก.ย.60 ตามเวลาประเทศไทย หรือวันที่ 12 ก.ย.60 ของประเทศสหรัฐฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทิม คุก ซีอีโอแอปเปิ้ล ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำจากสหรัฐฯ แถลงข่าวเปิดตัวและผลิตภัณฑ์ใหม่ ถือเป็นการครบรอบ 10 ปีของ iPhone ที่ผลิตรุ่นแรกตั้งแต่ปี 2550 และการเปิดตัวรุ่นล่าสุดในปี 2560 กับการเปิดตัว iPhone X หรือ ไอโฟน เท็น ตามการเรียกภาษาโรมัน กับการออกแบบใหม่ที่ไร้ปุ่ม Home (โฮม) แต่สามารถสไลด์ด้านล่างตัวเครื่องเพื่อเปลี่ยนกลับหน้าจอ หรือเปลี่ยนแอพพลิเคชั่นผ่านการสไลด์ด้านล่างตัวเครื่องและค้างไว้เล็กน้อยเท่านั้น

ขณะที่ หน้าจอของ ไอโฟน เท็น มีขนาดเต็มหน้าจอ เป็น OLED ขนาด 5.8 นิ้ว ที่เรียกว่า Super Retina Display สามารถกันน้ำ โดยมี 2 สีให้เลือก คือ ดำและเงิน พร้อมกับการพัฒนาระบบ Face ID หรือการสแกนหน้า ที่มาแทนการยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือ ด้วยเทคโนโลยีอินฟราเรด ที่เครื่องจดจำเรียนรู้จักหน้าที่บันทึกไว้แบบสามมิติ 

ส่วนกล้องไอโฟน เท็น ความละเอียดอยู่ที่ 12MP ปรับเปลี่ยนเลนส์จากแนวนอนเป็นแนวตั้ง สามารถเก็บสีสันและมิติได้สวยงามขึ้น ถ่ายในที่แสงน้อยก็ดีขึ้น เพิ่มเติม Portrait Lightning ช่วยให้การถ่ายภาพหลังเบลอ ๆ ทำได้ดีขึ้น และกล้องหน้าถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ รวมทั้งความสามารถใหม่ ที่ถ่ายภาพก่อนปรับแสงทีหลัง รองรับระบบชาร์จไร้สาย ที่มีแบตนานกว่า ไอโฟน 7 ถึง 2 ชั่วโมง วางขายวันที่ 3 พ.ย.เป็นต้นไป ส่วนราคามี 2 ความจุ 64GB และ 256GB เริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ทั้งนี้ ยังเปิดตัว iPhone 8 (ไอโฟน 8) และ (ไอโฟน 8 พลัส) ด้วยดีไซน์ กับเครื่องที่ใช้วัสดุอะลูมิเนียมแข็งและทนทาน ลำโพงดังกว่า iPhone 7 กว่า 25% พร้อม CPU A11 BIONIC รุ่นใหม่ใน iPhone 8 เป็นแบบ 6-core มีพลัง GPU แสดงภาพและประมวลผล โดยมี 3 สี สีเงิน สีเทา และสีทองใหม่ ชูจุดเด่นด้วยกล้องที่มีประสิทธิภาพ มาพร้อมเซนเซอร์ใหม่ เก็บสีสันและมิติได้สวยงามขึ้น ถ่ายในที่แสงน้อยก็ดีขึ้น

ขณะที่ กล้องหลัง ไอโฟน 8 ความละเอียดอยู่ที่ 12 MP ส่วนกล้อง ไอโฟน 8 พลัส ความละเอียดอยู่ที่ 12MP แต่เพิ่มเติม Portrait Lightning ช่วยให้การถ่ายภาพหลังเบลอ ๆ ทำได้ดีขึ้น และความสามารถใหม่ ที่ถ่ายภาพก่อนปรับแสงทีหลัง เพราะสามารถตัดพื้นหลังออกไปได้ ส่วนการถ่ายวิดีโอของ ไอโฟน 8 มีความละเอียดสูงขึ้น เนื่องจากการประมวลผลของ CPU A11 BIONIC รุ่นใหม่ รองรับการชาร์จไร้สายได้ 

สำหรับราคา ไอโฟน 8 ความจุ 64GB และ 256GB ราคาเริ่มต้น 699 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนไอโฟน 8 พลัส ความจุ 64GB และ 256GB ราคาเริ่มต้น 799 ดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมเปิดให้โหลดระบบปฏิบัติการ iOS 11 ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.นี้

นอกจากนี้ ยังเปิดตัว Apple Watch (แอปเปิ้ล วอช) กับผลิตภัณฑ์ใหม่ ซีรีย์ 3 หลังจากการเปิดตัวรุ่นก่อนหน้านี้ ยอดขายขยายตัวกว่า 50% มีผู้ใช้ให้ความพอใจกว่า 97% ส่งผลให้แอปเปิ้ล วอช ขึ้นเป็นนาฬิกาอันดับ 1 ของโลก โดยแอปเปิ้ล วอช  ซีรีย์ 3 สามารถเชื่อมกับระบบเซลลูล่าร์ หรือระบบของโทรศัพท์เคลื่อนที่  ช่วยให้ฟังเพลงสตรีมจาก Apple Music ได้ และใช้เบอร์มือถือเดียวกับ iPhone ที่โทรออกได้ทันที เริ่มวางขายตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.นี้ แบ่งเป็นรุ่นที่มีซิมขายเริ่มต้น 399 ดอลลาร์สหรัฐฯ และไม่มีซิมขาย 329 ดอลลาร์สหรัฐฯ รวมทั้งยังเปิดตัวระบบปฏิบัติการ watchOS 4 ที่เพิ่มความสามารถระบบวัดการเต้นของหัวใจ ช่วยเห็นข้อมูลและการเตือนสุขภาพ ที่จะเปิดให้อัพเดต 19 ก.ย.นี้เป็นต้นไป

ขณะเดียวกัน ยังเปิดตัว Apple tv4k (แอปเปิ้ล ทีวีโฟร์เค) ที่ให้ภาพคมชัดและสีสันสวยงามยิ่งขึ้น ทั้งการปรับปรุงจำนวนพิกเซลและคุณภาพของพิกเซล พร้อมกับการใช้ชิป A10X ตัวเดียวกับที่ใช้ใน iPad Pro 10.5 โดยการปรับปรุงครั้งนี้ภาพยนตร์ใน iTunes Store จะขายราคาเดิม และอัพเป็น 4K HDR รวมทั้งเปิดตัว Live Sport ถ่ายทอดกีฬา และแอปภาพถ่าย ดูแลบ้าน และสามารถโหลดเกมมาเล่นได้อีกด้วย เริ่มวางขายตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.นี้  

ขอขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูลข่าว : www.pptvhd36.com