จากวันแรกถึงวันอำลา : 22 ปี แห่งความทรงจำของ เวนเกอร์ ชายผู้เป็นมากกว่ากุนซือ

กระแสข่าววางมือของ อาร์แซน เวนเกอร์ ในที่สุดก็มาถึงคราวยุติจริงๆหลัง เวนเกอร์ ตัดสินใจปิดฉาก 22 ปี ในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดียม ลงเป็นที่เรียบร้อยหลังจบฤดูกาลที่ผ่านมา

การวางมือของ เวนเกอร์ เปรียบเสมือนการเปลี่ยนผ่านยุคสมัยใหม่ของ อาร์เซนอล เพราะนี่คือหนึ่งในกุนซือ “ปืนใหญ่” ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา แม้ช่วงหลังเขาจะไม่อาจพาทีมประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่ก็เป็นผู้ที่เคยพายอดทีมจากลอนดอนคว้าถ้วยมาประดับตู้โชว์หลายโทรฟี่ แฟนบอลบางส่วนอาจเรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่ง แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆกลับให้อารมณ์เศร้าเล็กน้อยๆ เพราะความผูกพันธ์ที่นายใหญ่ชาวฝรั่งเศสมีต่อสโมสรแห่งนี้นั้นมีมากเหลือเกิน

เธียร์รี่ อองรี, ปาทริค วิเอร่า, เฟรดริก ลุงเบิร์ก, โรแบร์ ปิเรส, เอียน ไรท์, ซิลแวง วิลตอร์, เยนส์ เลห์มันน์, เดวิด ซีแมน, โทนี่ อดัมส์, โซล แคมเบล, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, ธีโอ วัลค็อต และอีกหลายต่อหลายชื่อ พวกเขาคือนักเตะที่ได้รับการปลุกปั้นจาก อาแซน เวนเกอร์จนกลายเป็นแข้งแถวหน้าของวงการลูกหนังโลก นั่นจึงเป็นอีกสาเหตุที่เขาคือคนผู้อยู่เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของสโมสรโดยแท้จริงจากการสร้างนักเตะคนแล้วคนเล่าข้ามา

ทีม บางรายกลายเป็นนักเตะระดับตำนานสโมสร บางรายยังคงปักหลังเป็นกำลังสำคัญต่อไป และถือเป็นมรดกที่ เวนเกอร์ ทิ้งเอาไว้ก่อนอำลาทีม

เวนเกอร์ ไม่ใช่เพียงผู้จัดการทีมสโมสรในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษธรรมดาคนหนึ่ง แต่หากเขาเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของสโมสรแห่งนี้ หลายคนคงคุ้นภาพของชายสูงวัยที่คอยยืนคุมลูกทีมอยู่ข้างสนามพร้อมมองนาฬิกาบนข้อมือ และจดจ้องผลงานของนัดเตะเพื่อปรับเปลี่ยนแทคติกในแต่ละเกมได้เป็นอย่างดี แม้ผลงานจะออกมาไม่ดีในบางครั้ง แต่ก็เป็นภาพแห่งความทรงจำที่หลายคนคงคิดถึงในวันที่ไม่มีเขายืนทำหน้าเข้มคุมลูกทีมอยู่ข้างสนามอีกต่อไป

3 แชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 7 แชมป์เอฟเอ คัพ รองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2006 ไม่รวมแชมป์รายการอื่นๆอีกหลายรายการ มันคือผลงานที่เขาเคยฝากเอาไว้บนตราสโมสรแห่งนี้ หลายคนบอกว่า เวนเกอร์ หมดยุคที่จะจับงานคุมทีม และควรหันไปจับงานในตำแหน่งอื่นของสโมสรแทน แต่อย่าลืมว่าเขาคือคนที่สามารถพา อาร์เซนอล จบอันดับหัวตารางได้เกือบทุกฤดูกาล บางฤดูกาลผลงานดูย่ำแย่ แต่ท้ายที่สุดเขาก็สามารถพาทีมผงาดในอันดับท็อปโฟร์ได้อย่างหน้าตาเฉย นั่นเป็นเพราะ เวนเกอร์ คือกุนซือจอมแทคติกคนหนึ่งที่มีรูปแบบการเล่นหลากหลาย อีกสิ่งที่สำคัญคือการที่เขารู้จักนักเตะของตัวเองเป็นอย่างดี รู้ว่าใครควรเล่นตำแหน่งใด และจะจับไปอยู่ตรงไหนของสนามเพื่อให้นักเตะโชว์ประสิทธิภาพได้ดีที่สุดออกมาได้

นอกจากจะรู้จักนักเตะของตัวเองดี เขายังรู้จักสโมสรของตัวเองได้ดีอีกด้วย ซึ่งนับตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาคุมอาร์เซนอล เวนเกอร์ เคยดวลกับเหล่ายอดกุนซือชั้นนำแถวหน้าของโลกมาแล้วไม่ว่าจะในถ้วบยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก หรือศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษก็ตาม และมีหลายครั้งที่มักเกิดเหตุฟาดปากกับกุนซือทีมอื่นจนเหมือนเป็นไม้เบื่อไม้เมาโดยเฉพาะ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน รวมไปถึง โชเซ่ มูรินโญ่ 

สำหรับ เซอร์ อเล็กซ์ เขาคือผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่วน อาร์เซนอล แน่นอนว่าคือ เวนเกอร์ และยามที่ทั้งคู่ต้องเจอกันทีไรก็มักจะมีปากเสียงดุเดือดกันเรื่อยไป แต่ทั้งคู่ต่างก็เคารพซึ่งกัน และกัน และยอมรับในฝีมือของแต่ละคน ที่สำคัญพวกเขามีความคล้ายตรงที่เป็นสองกุนซือผู้ผ่านมาเกือบทุกยุคทุกสมัยในการแข่งขันบนลีกลูกหนังแดนผู้ดี ซึ่งในขณะที่บางสโมสรต่างเปลี่ยนตำแหน่งผู้จัดการทีมคนแล้วคนเล่า แต่ เซอร์ อเล็กซ์ และ เวนเกอร์ ยังคงนั่งเก้าอี้ผู้จัดการทีมต่อไป

ความดุเดือดของทั้งคู่ไม่ได้เกิดขึ้นแค่พวกเขาเท่านั้น แต่มันส่งต่อความร้อนแรงไปสู่บรรดาลูกทีมทั้งสองฝั่นยามที่พบเจอกัน รุด ฟานนิสเตอรอย, เควิน คีโอน์ว, แกรี่ เนวิล, รอยคีน ฯลฯ คือเหล่าแข้งที่มักเกิดความเดือดบ่อยครั้งยามต้องปะทะกัน แต่ก็เป็นอีกมนต์เสน่ห์ของศึกบิ๊กแมตช์ของทั้งสองทีม แต่แม้จะฟาดปากกันมาหนักขนาดไหนสุดท้ายในวันวางมือต่างก็ได้รับเกียรติจากคู่ต่อสู้เหมือนกัน

sbobet mobile วันที่ เซอร์ อเล็กซ์ ยุติบทบาทกับ “ปิศาจแดง” เวนเกอร์ยกย่องว่าเขาคือกุนซือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง ขณะที่วันอำลาของ เวนเกอร์ เซอร์ อเล็กซ์ ก็ยกย่อง เวนเกอร์ ว่าเป็นผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดคนหนึ่งเช่นเดียวกัน...