เดอะ เทเลกราฟ สื่อของอังกฤษ ตีข่าว คณะกรรมการของบอร์ดบริหารสมาคมฟุตบอลนานาชาติ จะเอาเรื่องเปลี่ยนกฎการยิงลูกจุดโทษมาเป็นหนึ่งในประเด็นที่หารือกัน โดยพวกเขาจะเปลี่ยนให้กลายเป็นว่าห้ามฝ่ายบุกเข้าไปยิงซ้ำเมื่อยิงไปติดเซฟ หรือไปชนเสาและคาน ซึ่งการประชุมจะมีขึ้นในต้นสัปดาห์หน้า
    

คณะกรรมการของบอร์ดบริหารสมาคมฟุตบอลนานาชาติ (ไอเอฟเอบี) ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวกับการออกกฎการแข่งขันนั้น จะหารือกันถึงการเปลี่ยนกฎเกี่ยวกับลูกจุดโทษให้กลายเป็นว่าต่อไปนี้จะไม่มีการยิงซ้ำอีก เมื่อคนยิงลูกจุดโทษยิงไปติดเซฟผู้รักษาประตู หรือชนเสาและคาน ตามรายงานของ เดอะ เทเลกราฟ สื่อชื่อดังของประเทศอังกฤษ

    
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเมื่อมีการยิงลูกจุดโทษในเวลาปกติ หรือในช่วงต่อเวลาพิเศษ ทีมที่ได้ยิงลูกจุดโทษก็มีสิทธิ์เข้าไปซ้ำเพื่อทำประตูได้ ถ้าเกิดมันไปติดเซฟ หรือชนเสากับคาน ซึ่งนั่นทำให้บางครั้งมีประเด็นปัญหาว่านักเตะคนอื่นของฝ่ายที่ได้ยิงลูกจุดโทษวิ่งเข้าไปในบริเวณกรอบเขตโทษเร็วเกินไปหรือไม่ หลังจากที่พวกเขาตั้งใจจะรีบวิ่งเข้าไปยิงซ้ำเผื่อเกิดกรณีที่ว่าเพื่อนร่วมทีมยิงลูกจุดโทษไม่เข้า

    
เรื่องดังกล่าวทำให้ ไอเอฟเอบี เตรียมคุยกันถึงเรื่องเปลี่ยนกฎให้กลายเป็นว่าถ้าเกิดผู้รักษาประตูปัดลูกจุดโทษได้ หรือคนที่ยิงลูกจุดโทษยิงไปชนเสากับคานเองแล้วนั้น มันก็จะถือว่าเป็นจังหวะบอลตายทันที และจะไม่มีการให้ทีมบุกได้เข้าไปยิงซ้ำอีก ซึ่งก็คือเหมือนกับในช่วงการดวลเป้านั่นเอง

    
ตัวอย่างเช่น ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมานั้น "ปีศาจแดง" ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ปอล ป็อกบา ยิงลูกจุดโทษไปติดเซฟของ จอร์แดน พิคฟอร์ด ก่อนที่เจ้าตัวจะซ้ำเข้าไป ซึ่งถ้าเกิดมีการเปลี่ยนกฎแล้วนั้น ป็อกบา ก็จะหมดสิทธิ์ซ้ำ พร้อมกับทำให้ทีมของกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ อดได้ประตูขึ้นนำ เป็นต้น

    
ทั้งนี้ ไอเอฟเอบี จะหารือกันถึงการเปลี่ยนกฎเรื่องอื่นๆ ด้วย โดยเรื่องเปลี่ยนกฎการยิงลูกจุดโทษถือเป็นหนึ่งในประเด็นรองที่พวกเขาจะหารือกัน ส่วนประเด็นหลักมันเกี่ยวกับกฎของการแฮนด์บอล ซึ่งการประชุมจะมีขึ้นที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในวันที่ 5-6 พฤศจิกายนนี้

    
สำหรับคณะกรรมการของ ไอเอฟเอบี นั้น จะประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากสมาคมฟุตบอล 4 คน ซึ่งคนกลุ่มนี้มีสิทธิ์ลงคะแนนคนละ 1 คะแนน และเจ้าหน้าที่ 1 คนของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ที่มีสิทธิ์ออกคะแนนคนเดียว 4 คะแนน โดยถ้าเกิดมีการโหวตเห็นด้วยอย่างน้อย 6 คะแนนแล้วนั้น ไอเอฟเอบี ก็จะนำเรื่องนี้ไปเสนอในการประชุมสามัญประจำปีของ ฟีฟ่า ในช่วงเดือนมีนาคม ปีหน้า ต่อไป